การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ซื้อสินค้า
สำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าว บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น รวมถึงข้อมูล Username / Password ของลูกค้า , สำเนาเอกสารแสดงตนของลูกค้าบุคคลธรรมดา หรือของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของลูกค้านิติบุคคล , ข้อมูลเทคนิคที่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้ เช่น IP Address หรือข้อมูลเครื่องมือที่ลูกค้าใช้สำหรับการเชื่อมต่อกับช่องทางการซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท และหากได้รับความยินยอมจากลูกค้า อาจรวมถึงข้อมูลคุกกี้บางประเภท รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทเพื่อการติดต่อ ประสานงานระหว่างลูกค้าและบริษัท
บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อประโยชน์หลัก ได้แก่
- การจัดทำสัญญาซื้อขายหรือใบแจ้งหนี้การขาย การลงทะเบียนและการยืนยันตัวตนผู้ซื้อในการทำธุรกรรมทั้งหมด และการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายหรือใบแจ้งหนี้การขาย ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการชำระราคาของผู้ซื้อ การติดต่อประสานงานระหว่างการจัดส่งสินค้า การส่งมอบสินค้า และการยืนยันในการรับสินค้าภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ไว้ในสัญญาหรือใบแจ้งหนี้โดยบริษัทให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตลอดระยะเวลาของสัญญาที่ยัง มีภาระหน้าที่ต้องดำเนินการระหว่างบริษัทและลูกค้าดังกล่าว และตลอดระยะเวลาที่รหัสลูกค้ายังมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้เป็นระยะเวลาที่บริษัทจะดำเนินการทบทวนประวัติลูกค้าเป็นปกติ
- การจัดทำเอกสารบัญชีและภาษี ซึ่งบริษัทอาจมีความจำเป็น ในการจัดทำเอกสารดังกล่าว โดยอ้างอิงเอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ
รวบรวม รักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
- การปกป้องและใช้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทที่อาจมีต่อลูกค้าภายใต้สัญญาซื้อขายดังกล่าว กรณีเกิดข้อพิพาทหรือการทุจริตในกระบวนการซื้อขาย ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าดังกล่าวไว้เพิ่มเติมเป็นระยะเวลาตามอายุความที่เกี่ยวข้อง และ
- กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลการติดต่อของลูกค้า เพื่อใช้ในการติดต่อประชาสัมพันธ์ทำการตลาดกับลูกค้า จนกว่าลูกค้าจะถอนความยินยอม
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิก
เจ้าของข้อมูลภายใต้กระบวนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หมายถึง ลูกค้าที่ได้สมัครเป็นสมาชิกของบริษัท สิทธิประโยชน์ของสมาชิก ควรระบุให้รวมถึง สิทธิในการได้รับข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องจากสิทธิการเป็นสมาชิกด้วย เพื่อให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการติดต่อดังกล่าว สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอ ความยินยอม ซึ่งจะถือเป็นสิทธิที่เพิ่มขึ้นต่างหากจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของ ลูกค้าทั่วไป
อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทก็ควรกำหนดทางเลือกการตั้งค่า Preference Setting การรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมรวมถึงช่องทางการรับข่าวสารดังกล่าวให้สมาชิกสามารถเลือกได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่สมาชิกจะได้รับการกระทบสิทธิมากเกินสมควรซึ่งอาจ นำไปสู่การยกเลิกการเป็นสมาชิก เช่น การกำหนดให้สมาชิกสามารถเลือกรับข้อมูลข่าวสารผ่าน SMS ผ่านอีเมล หรือทางไปรษณีย์ เป็นต้น โดย (1) อาจแจ้งเป็นเงื่อนไขให้กรอกในแบบสมัคร สมาชิกโดยตรง หรือ (2) กำหนดช่องทางแจ้งให้สมาชิกทราบถึงสิทธิในการเลือกกำหนด Preference Setting การรับข้อมูลข่าวสารและช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารที่สมาชิกสามารถ ดำเนินการได้ให้สมาชิกทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เข้ามาในพื้นที่ของบริษัท
บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ได้แก่
1. ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของท่านที่อาจได้รับการบันทึกผ่านการดำเนินการดังนี้
1.1 ผ่านระบบ CCTV ของบริษัทที่ติดตั้งไว้ หรือ
1.2 ผ่านการจัดเก็บภาพถ่ายบรรยากาศโดยรวมของกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้กรณีการถ่ายภาพรวมของกิจกรรมที่จัดขึ้นนี้ หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพของท่าน ท่านอาจต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวหรือท่านสามารถแจ้งจุดประสงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพนั้น และ
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่อาจให้ผ่านแบบสอบถาม ทั้งนี้ บริษัทให้อิสระแก่ลูกค้าในการให้ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลชื่อนามสกุล และข้อมูลการติดต่อสื่อสาร (เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล เป็นต้น)
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่เข้ามาภายในพื้นที่นี้เป็นไปเพื่อจุดประสงค์หลัก ได้แก่
1. การรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ ผ่านระบบกล้อง CCTV ซึ่งจะได้รับการเก็บบันทึกไว้เป็นระยะเวลา 90 วันหรือระยะ เวลาที่จำเป็นสำหรับการดำเนินกระบวนการรักษาสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
2. การนำภาพที่ได้รับการบันทึกในลักษณะภาพรวมการจัดกิจกรรมหรือการทำงานภายในพื้นที่ไปจัดทำเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท ที่อาจได้รับ การเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสาธารณะต่าง ๆ ทั้งนี้บริษัทสงวนสิทธิในการใช้ประโยชน์สื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวเท่าที่จำเป็น ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยรับประกันไม่ให้กระทบสิทธิของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร
3. การนำข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจได้รับจากท่าน ในการตอบแบบสอบถามไปใช้ในการวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้า เพื่อประโยชน์ในการ ปรับปรุงการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้บริษัทอาจดำเนินการดังกล่าวโดยการจัดทำข้อมูลดังกล่าวให้เป็นนิรนาม เพื่อ การคำนวณสถิติ และสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตลอดระยะเวลาที่จำเป็นทางธุรกิจ และ
4. กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลการติดต่อของลูกค้า เพื่อใช้ในการติดต่อประชาสัมพันธ์ทำการตลาดกับลูกค้า จนกว่าลูกค้าจะถอนความยินยอม
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัท ฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากคุณโดยความสมัครใจไม่ว่าจะเป็นการเข้าใช้บริการทาง Shop POP Print, BIG camera, Wonder Photo Shop หรือ การใช้บริการทางเว็บไซต์ ภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท ฯ เท่านั้น
- เราจะเก็บและประเมินข้อมูลที่เกี่ยวกับการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ และความเคลื่อนไหวในการเข้าถึงแต่ละส่วนของเว็บไซต์ของเราเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ ให้เข้าใจพฤติกรรมในการใช้บริการทางเว็บไซต์ของผู้เยี่ยมชม และเราจะได้นำผลการศึกษาดังกล่าวไปพัฒนาและปรับปรุง ให้การใช้งานเว็บไซต์ของเราง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เพื่อทำการติดต่อลูกค้า ผ่านช่องทางใดทางหนึ่งซึ่งคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับทางเรา ไม่ว่าจะเป็นทาง โทรศัพท์ อีเมล หรือช่องทางอื่นใด เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ลูกค้าทราบ หรือตรวจสอบและยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของลูกค้า หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท ฯ
- เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ประโยชน์ทางการค้าในการประมวลผลการบริหารจัดการ , การดำเนินการทางธุรกรรมต่าง ๆ ที่ลูกค้ายื่นต่อบริษัท ฯ รวมถึงปรับปรุงธุรกิจของเราและจัดสรรบริการบนแพลตฟอร์ม POP Print, BIG Camera, Wonder Photo Shop ให้สะดวกแก่การใช้บริการมากยิ่งขึ้น
- เราจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากคุณเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ระบุไว้ขณะเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เราอาจใช้ข้อมูลนั้น (โดยไม่มีการระบุเป็นรายบุคคล) เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการซื้อขายสินค้าประเภทกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ในการวางแผนส่งเสริมและสนับสนุนการขาย รวมทั้งเปรียบเทียบการขายในแต่ละช่วง
- เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้รับจากผู้จัดจำหน่าย ธนาคาร หรือหน่วยงานอื่น ๆ ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้า รวมถึงบริการติดตาม ประสานงาน แก้ไขปัญหาแก่ลูกค้าตามความเหมาะสม เช่น การให้บริการกล้องซ่อม การให้บริการด้านประกันภัยในสินค้า หรือตอบข้อซักถาม เป็นต้น
- ในบางกรณีบริษัท ฯ อาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเท่าที่จำเป็นและเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของบริษัท ฯ ทั้งนี้ บริษัท ฯ จะต้องได้รับความยินยอมจากคุณก่อน
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับตามที่กฎหมายกำหนดและตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของข้อมูล บริษัทฯจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลที่สามโดยปราศจากการยินยอมจากลูกค้า อย่างไรก็ดี ในบางครั้งบริษัทฯ อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในทางการค้า โดยเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้กับ ผู้แทนจำหน่าย ผู้จัดจำหน่าย เจ้าของแบรนด์/คู่ค้า ธนาคาร บริษัทประกันในเครือของเรา บริษัทฯในเครือกิจการหรือธุรกิจเดียวกัน พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงบุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับข้อมูลการขาย หรือ การดำเนินการทางธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต , Internet banking หรือ 2C2P หรือ 123 Service หรือ Pay pal หรือ ข้อมูลที่ใช้ในการประกันสินค้า โดยมีข้อตกลงระหว่างกันในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยบริษัทฯมีการกำหนด ให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลดังกล่าวมีหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด
ทั้งนี้ บริษัท ฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดโดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าในการเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลลูกค้า รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อันได้แก่ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือ เป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือ บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้ของบริษัท ฯ ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดโดยไม่จำต้องได้รับ ความยินยอมจากลูกค้าที่กล่าวมาข้างต้นมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง และการร้องขอข้อมูลจากทางราชการ
- เพื่อพิสูจน์ความมีส่วนร่วมหรือถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น
- เพื่อพิสูจน์ความมีส่วนร่วมหรือถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการกระทำหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการรายงานกิจกรรมใด ๆ ที่สงสัยว่าผิดกฎหมายแก่หน่วยงานดังกล่าว
- เพื่อตรวจสอบต่อไป และเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือตรวจสอบการทุจริต ปัญหาด้านความปลอดภัย หรือด้านเทคนิค
- กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ
สินค้าและบริการ บริษัทจะแบ่งปันข้อมูลของท่านภายในบริษัทตามที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการของบริษัท บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์กับท่านและผู้อื่นมากขึ้น
การถ่ายโอนธุรกิจ
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กร การปรับโครงสร้างใหม่ การควบรวมหรือการขายกิจการ หรือการถ่ายโอนสินทรัพย์อื่นๆ โดยมีเงื่อนไขว่าฝ่ายที่รับโอนตกลงยอมรับที่จะปฏิบัติกับข้อมูลส่วนตัวของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การบังคับใช้กฎหมาย
ในกรณีที่จำเป็นตามกฎหมายหรือเมื่อหน่วยงานราชการร้องขอ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หรือ หน่วยงานของรัฐ
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่ สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว